วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2551

5.นิสิตใช้คอมพิวเตอร์ในอะไรบ้าง ให้อธิบาย

1.ใช้ติดตามข่าวสารบ้านเมือง และสถานการณ์โลก
2.ใช้ในการเรียน และการทำงานในการค้นหาข้อมูล
3.ใช้ในการสื่อสารติดต่อกัน เช่น msn
4.ใช้เพื่อความบันเทิง เช่น เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง


สืบค้นเมื่อ 29 มิถุนายน 2551
4.VLSI คืออะไร มีความสำคัญต่อคอมพิวเตอร์อย่างไร

วีแอลเอสไอ <คำอ่าน>ย่อมาจาก very large scale integration (แปลว่า วงจรรวมความจุสูงมาก) หมายถึงการสร้างชิป (chip) โดยสามารถนำประตู (gate) มารวมกันได้ถึง 100,000 ประตูหรือมากกว่านั้น แล้วนำมาใช้เป็นตัวประมวลผล ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงได้มาก ในปัจจุบัน มีการสร้างชิปที่มีประตูมากยิ่งไป กว่านั้น เรียกว่า ULSI
( ultra large scale integraton หรือวงจรรวมความจุสูงยิ่ง)

สืบค้นเมื่อ 29 มิถุนายน 2551
http://dictionary.thaieasyjob.com/dictionary.php?word=vlsi&type=2
3.ข้อมูลและสารสนเทศแตกต่างกันอย่างไร

- ข้อมูล (date) หมายถึง ข้อเท็จจริงที่ได้จากการรวบรวม ซึ่งอาจจะเป็นตัวเลข ข้อความรูปภาพ หรือเสียง เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำการประมวล ให้ได้สารสนเทศ

- สารสนเทศ (information) หมายถึง สิ่งที่ได้จากการประมวลผลแล้ว ซึ่งในบางครั้งสารสนเทศอาจจะเป็นข้อมูลเพื่อการประมวลผล ให้ได้ข้อสนเทศอีกอย่างหนึ่งก็ได้
เช่น คะแนนสอบของนักศึกษา เป็นข้อมูล เมื่อผ่านกระบวนการตัดเกรด จะได้เกรดเป็นสารสนเทศ และเมื่อนำเกรดนักศึกษาไปคำนวณหาค่าเฉลี่ย เกรดของ นักศึกษาจะเป็นข้อมูล และสารสนเทศที่ได้คือเกรดเฉลี่ย (GPA)

สืบค้นเมื่อ 29 มิถุนายน 2551
http://www.tp.th.gs/web-t/p/index4.htm
2.คอมพิวเตอร์แบบฝังคืออะไร ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง พร้อมรูปประกอบ
คอมพิวเตอร์แบบฝัง เป็นคอมพิวเตอร์ที่ฝังในอุปกรณ์ต่าง ๆ นิยมนำมาใช้ทำงาน เฉพาะด้าน พิจารณาจากภายนอกจะไม่เห็นว่าเป็นคอมพิวเตอร์แต่จะ ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานบางอย่างของอุปกรณ์นั้นๆ คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ เช่น เครื่องเล่นเกม ระบบเติมน้ำมันอัตโนมัติ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น


สืบค้นเมื่อ 29 มิถุนายน 2551

www.kknic.ac.th/elearning/micro_com/lesson_2.html
1.คอมพิวเตอร์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง พร้อมรูปประกอบ
ประเภทคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
1. Super Computer เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และสามารถประมวลผลได้เร็วที่สุด มีความจุในการจัดเก็บข้อมูลสูง ส่วนมากจะผลิตขึ้นมาเพื่อใช้งานเฉพาะด้านเท่านั้น เช่นงานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ยุ่งยากซับซ้อน และต้องมีการคํานวณมาก เช่น งานวิจัยทางด้านนิวเคลียร์ งานพยากรณ์อากาศ ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ชนิดนี้มีราคาแพงมาก




2. Mainframe Computer เป็นคอมพิวเตอร็ที่มีประสิทธิภาพตํ่ารองจาก Super computerและความเร็วในการประมวลผลสูง ส่วนใหญ่มักจะนํ าไปใช้งานกับองค์กรขนาดใหญ่ เช่น ธนาคาร สายการบิน บริษัทประกันภัย มหาวิทยาลัย เป็นต้น





3. Mini Computer เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วในการประมวลผลและความจุตํ่ากว่าระบบเมนเฟรม มินิคอมพิวเตอร์จะทํางานโดยใช้ระบบผู้ใช้หลายคน (Multi-user system) มักจะใช้กับงานที่มีข้อมูลไม่มาก ส่วนใหญ่ที่นิยมนํามาประยุกต์ใช้งานกับบริษัทขนาดกลาง เช่น ระบบบัญชี





4. Micro Computer หรือ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่สุด ปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้กันมาก เนื่องจากมีขนาดเล็ก นํ้าหนักเบา ราคาไม่แพง สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก




สืบค้น 29 มิถุนายน 2551
แหล่งที่มา
http://www.geocities.com/kunkroo_computer/intro3.html

วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2551


“SRAN”
อุปกรณ์เฝ้าระวัง
ภัยคุกคาม
เครือข่ายคอมพ์

โกลบอลเทคโนโลยีส่ง SRAN Security Center ลงตลาด รองรับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 จับตลาดกลุ่มผู้ที่ใช้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งรัฐและเอกชนที่ต้องการอุปกรณ์เฝ้าระวังภัยคุกคามเครือข่ายคอมพิวเตอร์ นายนรัตถ์ สาระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลเทคโนโลยี อินทิเกรเทด กล่าวว่า ปัจจุบันภัยคุกคามจากระบบข้อมูลสารสนเทศมีหลากหลายลักษณะ ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ รวมถึงเป็นช่องทางของการก่ออาชญากรรม การโจรกรรมข้อมูล การเผยแพร่หรือข้อมูลที่ไม่เหมาะสม ที่อาจสร้างความเสียหายต่อบุคคล ระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติในด้านต่างๆ ได้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวบริษัทจึงได้มีการพัฒนาอุปกรณ์ SRAN Security Center ขึ้น เพื่อเฝ้าระวังภัยคุกคาม และเก็บบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลสื่อสารบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างครบวงจร เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในการติดต่อหาผู้กระทำความผิด SRAN Security Center เป็นการรวมความสามารถ 4 อย่างไว้ด้วยกันคือ ระบบวิเคราะห์การใช้งานในเครือข่าย ระบบตรวจจับภัยคุกคามระบบเครือข่าย ระบบประเมินและวิเคราะห์ความเสี่ยง และระบบเก็บบันทึกข้อมูลจราจรในเครือข่าย อุปกรณ์ดังกล่าวมีให้เลือก 4 รุ่นตามความต้องการใช้งาน ติดตั้งง่ายและรวดเร็วไม่ต้องแก้ไขเครือข่ายเดิม ประหยัดเนื้อที่ติดตั้งและเก็บบันทึกข้อมูล โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วไปที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายในการประกอบกิจการ รวมถึงสถาบันการศึกษาและร้านอินเทอร์เน็ต โดยระบบจะรวบรวมข้อมูลเป็นรายงาน เพื่อสะดวกแก่การตรวจสอบของผู้ดูแลระบบ นายจ้าง หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ต้องการทราบพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตและระบบสารสนเทศในองค์กรเชิงลึก นอกจากนี้ ยังสามารถจำแนกได้ว่าพฤติกรรมการใช้งานดังกล่าวเข้าข่ายความผิดประเภทใด ทำให้รู้เท่าทันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และสะดวกต่อการสืบค้นหาผู้กระทำความผิดข่าว
จาก : ผู้จัดการออนไลน์วันที่ : 5 มิถุนายน 2551
วันที่สืบค้น 22 มิถุนายน 2551

อินเทลเปิดตัว
“อะตอม”
ราคาถูก
เจาะกลุ่ม
เด็กนักเรียน
ที่กำลังซื้อต่ำ

แฟ้มภาพ : ชิปอินเทลตระกูลอะตอม (Atom)
อินเทลเปิดตัวอะตอมในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ สร้างคอมพิวเตอร์สายพันธุ์ใหม่ เน็ตบุ๊ก เน็ตท็อป ราคาประหยัด เจาะกลุ่มผู้ใช้ระดับแม่ค้า นักเรียน ม.ต้นไปจนถึงประถม คาดช่วยขยายจำนวนประชากรผู้ใช้คอมพิวเตอร์โตเป็น 20% ในไม่ช้า นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโคร อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า อินเทลพร้อมประกาศเปิดตัว อินเทล “อะตอม” โปรเซสเซอร์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยอินเทล อะตอม นั้นถือเป็นคอมพิวเตอร์สายพันธุ์ใหม่ สำหรับกลุ่มเน็ตบุ๊ก (netbook)และเน็ตท็อป (nettop) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่บุคคลที่ต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์ในราคาประหยัด น้ำหนักเบาพกพาง่าย เพื่อนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้ง่าย และไม่เน้นการใช้งานมากนัก “อะตอม นับเป็นคอมพิวเตอร์ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ไม่ต้องการจ่ายเงินแพง ซื้อโน้ตบุ๊กที่มีราคาในระดับ 2 หมื่นบาทปลายขึ้นไปทั้งที่ไม่มีความจำเป็นในการใช้งานมาก โดยเน็ตบุ๊ก และเน็ตท็อป มีราคาระดับหมื่นบาทต้นๆ และยังมีน้ำหนักเบาสามารถพกพาออกไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวก และยังประหยัดพลังงานไฟฟ้าเป็นอย่างดี” นายเอกรัศมิ์กล่าว ทั้งนี้ อินเทลเชื่อว่าอะตอมจะช่วยขยายตลาดคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยให้ขยายตัวมากขึ้นจากปัจจุบันมีผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อจำนวนประชากรในประเทศไทยเพียง 15% เป็น 20% ในระยะเวลาอันใกล้ เนื่องจากมีคุณสมบัติการใช้งานโปรแกรมพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์งาน ดูหนัง ฟังเพลง ดูรูป หรือต่ออินเทอร์เน็ตในราคาที่สามารถเลือกซื้อได้ “มีแนวโน้มว่าจะมีการผลิตเน็ตบุ๊ก และเน็ตท็อปในราคาต่ำกว่า 1 หมื่นบาท ซึ่งจะทำให้การเข้าถึงสินค้ากลุ่มนี้ของประชากรทั่วไปง่ายขึ้น ทำให้แม่ค้าแม่ขายหรือบุคคลทั่วไปซื้อเน็ตบุ๊ก เน็ตท็อปมาใช้งานเหมือนโทรศัพท์มือถือปัจจุบันมากขึ้น” นายเอกรัศมิ์กล่าว อย่างไรก็ดี เน็ตบุ๊ก และเน็ตท็อป มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือกลุ่มผู้ที่ไม่ต้องการจ่ายเงินในราคาสูงเพื่อซื้อโน้ตบุ๊ก ผู้ที่มีความต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์เบื้องต้น กลุ่มนักเรียนระดับมัธยมต้นไปจนถึงระดับประถมศึกษา และเป็นเครื่องที่ 2 สำหรับผู้ที่มีคอมพิวเตอร์โน๊คบุ๊กหรือ พีซีแล้ว แต่ต้องการใช้คอมพิวเตอร์ทำงานนอกสถานที่ “เมื่อผู้ผลิตสามารถนำเสนอคอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊กและเน็ตท็อปที่ใช้อินเทล อะตอมโปรเซสเซอร์ ในราคาประหยัดกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป จะส่งผลดีให้ประชากรเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งองค์ความรู้ที่สมบูรณ์มากขึ้นและเป็นการลดช่องว่างการเข้าถึงดิจิตอลได้อีกทางหนึ่ง” นายเอกรัศมิ์กล่าวอีกว่า อะตอม เดิมมีชื่อรหัสว่า Diamondville เป็นโปรเซสเซอร์ขนาเล็กที่สุดจากอินเทลซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 45 นาโนเมตร และเทคโนโลยี Hi-k metal gate ซึ่งทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรมในขณะนี้ ทำให้ได้โปรเซสเซอร์ขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพแต่ใช้พลังงานต่ำ ซึ่งอินเทลได้มุ่งเน้นพัฒนาเพื่อเน็ตบุ๊กและเน็ตท็อปโดยเฉพาะ โดยคอมพิวเตอร์ในกลุ่มนี้จะมีราคาประหยัด ง่ายต่อการใช้งาน เน้นการดูแลข้อมูล มุ่งเน้นงานแอปพลิเคชันบนอินเทอร์เน็ต มากกว่าการสร้างข้อมูล หรือใช้แอปพลิเคชันที่ซับซ้อน โดยความแตกต่างของเน็ตบุ๊ก และเน็ตท็อป กับโน้ตบุ้กและพีซี คือจะมีขนาดหน้าจอเล็กกว่าไม่เกิน 10 นิ้ว มีความสามารถในการใช้งานพร้อมกันได้น้อยกว่า ไม่เหมาะกับการใช้งาน กราฟฟิก ออกแบบ หรือการประมูลผลรูปภาพที่มีความละเอียดขนาดใหญ่ มีน้ำหนักเบา กินไฟน้อย

ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ : 9 มิถุนายน 2551


วันที่สืบค้น 22 มิถุนายน 2551